เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค [3. ปัญญาวรรค] 1. มหาปัญญากถา 2. ปุคคลวิเสสนิทเทส
บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มากด้วยความสะดุ้ง เป็นผู้มากด้วยความหวาด
เสียว เป็นผู้มากด้วยความเบื่อหน่าย เป็นผู้มากด้วยความระอา เป็นผู้มากด้วย
ความไม่พอใจ เบือนหน้าออก ไม่ยินดีในสังขารทั้งปวง ย่อมชำแรก ทำลายกรรม
ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ไปสู่ภพทั้งปวงที่ไม่เคยชำแรก ไม่เคยทำลาย(ด้วยปัญญา)
เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าปัญญาชำแรกกิเลส นี้ชื่อว่าปัญญาชำแรกกิเลส ในคำว่า
ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาชำแรกกิเลส (16)
ปัญญาเหล่านี้เรียกว่า ปัญญา 16 ประการ บุคคลประกอบด้วยปัญญา 16
ประการนี้ ชื่อว่าผู้บรรลุปฏิสัมภิทา

2. ปุคคลวิเสสนิทเทส
แสดงบุคคลวิเศษ
[8] บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกหนึ่งถึงพร้อมด้วยความ
เพียรมาก่อน พวกหนึ่งไม่ถึงพร้อมด้วยความเพียรมาก่อน พวกที่ถึงพร้อมด้วย
ความเพียรมาก่อนเป็นผู้ประเสริฐวิเศษยิ่งกว่าพวกที่ไม่ถึงพร้อมด้วยความเพียรมา
ก่อนนั้น และญาณของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยความเพียรมาก่อนย่อมแตกฉาน
บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกที่ถึงพร้อมด้วยความเพียร
มาก่อนก็มี 2 จำพวก คือ พวกหนึ่งเป็นพหูสูต พวกหนึ่งไม่ได้เป็นพหูสูต พวกที่
เป็นพหูสูตเป็นพวกที่ประเสริฐวิเศษยิ่งกว่าพวกที่ไม่ได้เป็นพหูสูตนั้น และญาณของ
บุคคลผู้เป็นพหูสูตนั้นย่อมแตกฉาน
บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกที่บรรลุปฏิสัมภิทา ถึงพร้อม
ด้วยความเพียรมาก่อนก็มี 2 จำพวก แม้พวกที่เป็นพหูสูตก็มี 2 จำพวก คือ
พวกหนึ่งมากด้วยเทศนา พวกหนึ่งไม่มากด้วยเทศนา พวกที่มากด้วยเทศนาเป็นผู้
ประเสริฐวิเศษยิ่งกว่าพวกที่ไม่มากด้วยเทศนานั้น และญาณของบุคคลผู้มากด้วย
เทศนานั้นย่อมแตกฉาน
บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกที่บรรลุปฏิสัมภิทา ถึงพร้อม
ด้วยความเพียรมาก่อนก็มี 2 จำพวก แม้พวกที่เป็นพหูสูตก็มี 2 จำพวก และ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 31 หน้า :559 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค [3. ปัญญาวรรค] 1. มหาปัญญากถา 2. ปุคคลวิเสสนิทเทส
พวกที่มากด้วยเทศนาก็มี 2 จำพวก คือ พวกหนึ่งอาศัยครู พวกหนึ่งไม่อาศัยครู
พวกที่อาศัยครูเป็นผู้ประเสริฐวิเศษยิ่งกว่าพวกที่ไม่อาศัยครูนั้น และญาณของ
บุคคลผู้อาศัยครูนั้นย่อมแตกฉาน
บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกที่บรรลุปฏิสัมภิทา ถึงพร้อม
ด้วยความเพียรมาก่อนก็มี 2 จำพวก แม้พวกที่เป็นพหูสูตก็มี 2 จำพวก พวก
ที่มากด้วยเทศนาก็มี 2 จำพวก และพวกที่อาศัยครูก็มี 2 จำพวก คือ พวกหนึ่ง
มีวิหารธรรมมาก พวกหนึ่งมีวิหารธรรมไม่มาก พวกที่มีวิหารธรรมมากเป็นผู้ประเสริฐ
วิเศษยิ่งกว่าพวกที่มีวิหารธรรมไม่มากนั้น และญาณของบุคคลผู้มีวิหารธรรมมาก
นั้นย่อมแตกฉาน
บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกที่บรรลุปฏิสัมภิทา ถึงพร้อม
ด้วยความเพียรมาก่อนก็มี 2 จำพวก แม้พวกที่เป็นพหูสูตก็มี 2 จำพวก พวก
ที่มากด้วยเทศนาก็มี 2 จำพวก พวกที่อาศัยครูก็มี 2 จำพวก และพวกที่มี
วิหารธรรมมากก็มี 2 จำพวก คือ พวกหนึ่งมีการพิจารณามาก พวกหนึ่งมีการ
พิจารณาไม่มาก พวกที่มีการพิจารณามาก เป็นผู้ประเสริฐวิเศษยิ่งกว่าพวกที่มีการ
พิจารณาไม่มากนั้น และญาณของบุคคลผู้มีการพิจารณามากนั้นย่อมแตกฉาน
บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกที่บรรลุปฏิสัมภิทา ถึงพร้อม
ด้วยความเพียรมาก่อนก็มี 2 จำพวก แม้พวกที่เป็นพหูสูตก็มี 2 จำพวก พวกที่
มากด้วยเทศนาก็มี 2 จำพวก พวกที่อาศัยครูก็มี 2 จำพวก พวกที่มีวิหาร-
ธรรมมากก็มี 2 จำพวก และพวกที่มีการพิจารณามากก็มี 2 จำพวก คือ พวกหนึ่ง
เป็นพระเสขะบรรลุปฏิสัมภิทา พวกหนึ่งเป็นพระอเสขะบรรลุปฏิสัมภิทา พวกที่เป็น
พระอเสขะบรรลุปฏิสัมภิทาเป็นผู้ประเสริฐวิเศษยิ่งกว่าพวกที่เป็นพระเสขะบรรลุ
ปฏิสัมภิทานั้น และญาณของพระอเสขะผู้บรรลุปฏิสัมภิทานั้นย่อมแตกฉาน
บุคคลผู้บรรลุปฏิสัมภิทามี 2 จำพวก คือ พวกที่บรรลุปฏิสัมภิทา ถึงพร้อม
ด้วยความเพียรมาก่อนก็มี 2 จำพวก แม้พวกที่เป็นพหูสูตก็มี 2 จำพวก พวก
ที่มากด้วยเทศนาก็มี 2 จำพวก พวกที่มีวิหารธรรมมากก็มี 2 จำพวก พวกที่


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 31 หน้า :560 }